5 กลยุทธ์เขม็ดแขม่แบตเตอรี่แบบรีบด่วนบน Android
เชื่อว่าหลายคนที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ต้องเคยตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่แบตเตอรี่เหลือเลื่องประจุอยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แถมยังต้องเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้เพื่อรอสายสำคัญ แล้วคุณยังลืมพกแบตเตอรี่สำรองติดตัวมาอีก จะทำอย่างไรล่ะทีนี้? เรามี 5 วิธีง่ายๆเหตุด้วยยืดอายุการใช้งานแบบฉุกเฉินบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มาฝากครับ

1. ปิดสนธิสัญญาณอินเตอร์เน็ต
ตัวการสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันกินแบตฯอย่างมหาศาล อันเนื่องมาจากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเครือข่าย 3G ตลอดเวลานั่นเอง
ซึ่งสมมตคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่แบตเตอรี่ใกล้หมด แล้วไม่อาจจักหาที่ชาร์จแบตได้ ก็ให้ปิดการเชื่อมต่อ Data ไปเสียเลย วิธีนี้จักช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพื่อให้มีเวลาสแตนบายเพิ่มขึ้นอีกมาก
แต่สมมติคุณจำเป็นต้องใช้แอพพลิเคชั่นฝ่ายส่งข้อความอย่าง WeChat เหรอไลน์ ที่ใช้ปริมาณ Data ไม่มากแล้วล่ะก็ คุณเชี่ยวชาญเร่ำลือกใช้การเชื่อมต่อแบบ 2G แทน ซึ่งกินไฟน้อยกว่าแบบ 3G มาก
2. ปรับความสว่างหน้าจอลง
ความสว่างของหน้าจอเป็นอีกหนึ่งตัวการกินแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน ยิ่งหน้าจอโทรศัพท์ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ การกินไฟก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น
สมมติว่าตกอยู่ในกรณีฉุกเฉิน คุณทำได้ปรับความสว่างหน้าจอให้น้อยที่สุด เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้มากที่สุด แต่วิธีก็จักทำให้มองหน้าจอได้ลำบากขึ้นด้วยโดยเฉพาะเวลาอยู่ในที่กลางแจ้ง
3. ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi พร้อมด้วย Bluetooth
หลายคนมักเปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ใช่ไหม Bluetooth ทิ้งเอาไว้ เพื่อความสะดวกเวลาเข้าไปยังสถานที่ที่เชื่อมต่ออยู่เป็นประจำ เช่น ในบ้าน, ที่ทำงาน หรือ บนรถ เป็นต้น
แต่สมมุติอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยเชื่อมต่ออนุสัญญาณไวไฟ โทรศัพท์ก็จักพยายามสแกนเพื่อหาหนังสือสัญญาณอยู่ตลอดเวลา เป็นตัวการของการสูบแบตฯเพราะไม่รู้ตัว ทางที่ดีถ้าต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ก็ให้ปิดการเชื่อมต่อหนังสือสัญญาณ Wi-Fi ด้วยกัน Bluetooth ไปเลยจักดีที่สุด
4. Kill การทำงานทุกแอพพลิเคชั่น
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้น ทำเป็นเปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวไปพร้อมๆกันได้ เพราะที่แต่ละแอพฯยังคงทำงานแบบ Background อยู่
ซึ่งอาจทำให้เปละบืองแบตเตอรี่เพราะว่าไม่จำเป็น ด้วยเหตุว่า CPU ยังคงทำงานเพื่อประมวลผลแอพฯเหล่านั้นเพราะว่าไม่จำเป็น ทางที่ดีคุณควร Kill แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นทิ้งไปก่อน ใช่ไหมแม้ไม่แน่ใจก็อาจใช้คำสั่ง 'Force Stop' เพราะว่าเข้าไปที่ 'Settings' แล้วตามด้วย 'Apps' จากนั้นจึงเลือกระฉ่อนกหยุดการทำงานของแอพฯที่ต้องการได้เลย
5. ปิดฟังก์ชั่นที่ต้องใช้เซ็นเซอร์ตลอดเวลา
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์บางรุ่น อาจมีฟังก์ชั่นสัมผัสหน้าจอเพื่อเปิดเครื่อง หรือไม่ ฟังก์ชั่นพันธุ์ลากมือข้ามหน้าจอเพื่อเปิดดูนาฬิกาเป็นต้น
ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้จะทำให้เซ็นเซอร์มีการทำงานตลอดเวลาแม้ในขณะปิดเครื่อง ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ขณะนั้น ทางที่ดีควรปิดฟังก์ชั่นเหล่านี้ไปก่อนถ้าหากมีความจำเป็นต้องยืดอายุแบตเตอรี่ในยามฉุกเฉิน
เท่าเท่านี้ คุณก็จักมีเวลาสแตนบายเพิ่มขึ้น ให้กับสายโทรศัพท์สำคัญๆที่คุณกำลังรออยู่ในเวลาฉุกเฉินได้แล้วล่ะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น